วันนี้แอดมินก็จะมารีวิว หนัง เรื่อง อนงค์ ฉีกกฎหนังผีสยองขวัญ ที่ชวนพิสูจน์รักแท้ของคนกับผี แอดมินเป็นคนที่ตกรถค่ะ ขอสารภาพไว้ตรงนี้เลย สำหรับหนังไทยเรื่องอนงค์ ไม่ได้ดูตั้งแต่วีคแรกที่ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าโรง ปล่อยผ่านมาจนถึงปลายวีคสอง ยอมรับเลยค่ะว่าที่ได้ไปดูเนี่ย ก็เพราะว่ามีคนลากไปดู ทำไมถึงมองข้ามเรื่องนี้ ทั้งที่กระแสก็ดูดีเลยนะคะ ตอบกันแบบตรงๆเลยก็คือ เนื้อเรื่องของมันไม่ดึงดูดเลยค่ะ เท่านี้จริงๆ ไม่รู้ว่าตอนเห็นตัวอย่างเนี่ย ไม่ค่อยตั้งใจ หรือว่าโฟกัสมากเกินไป ยังไงกันแน่

แม้แต่พอเข้าใจภาพรวมว่าหนังจะเป็นไปในแนวทางไหน แต่ก็ยังรู้สึกไม่ได้อยากดูอยู่ดี ความรู้สึกนี้เนี่ย ติดตัวไปจนกระทั่งตีตั๋วเข้าไปในโรงนั่นแหละ แต่พอได้ดูแล้วรู้สึกยังไงกันบ้าง เดี๋ยววันนี้จะมาแบ่งปันความรู้สึกให้ฟังค่ะ ด้วยความที่หนังมันเข้ามาสักพักแล้ว ก็อาจจะไม่ได้การรีวิวอะไรที่จริงจัง แถมอาจจะมีการสปอยล์เบาๆ พูดถึงฉากต่างๆในเรื่องด้วย แต่ว่าถึงขนาดเราตอนจบอะไรขนาดนั้นนะคะ แต่ก่อนที่จะไป แอดมินก็ต้องขอฝากให้ไปติดตาม Immortan Joe กันด้วยนะคะ แล้วในวันนี้ แอดมินก็ต้องขอขอบคุณ สล็อตPG ที่สนับสนุนบทความของเราในวันนี้ด้วยค่ะ

อนงค์ ฉีกกฎหนังผีสยองขวัญ ที่ชวนพิสูจน์รักแท้ของคนกับผี

เห็นความรู้สึกชอบบางอย่างที่มันอาจจะดูธรรมดาไม่ได้หวือหวาพิสดาร แต่ว่ามีเสน่ห์เฉพาะตัวที่รู้สึกว่ามันคลิกกับเราไหมคะ นั่นแหละค่ะคือความรู้สึกที่เรามีต่อภาพยนตร์อนงค์เรื่องนี้ ชอบมากกว่าที่ตัวเองคิดไว้ก็แล้วกันค่ะ หลังจากดูจบแล้วเนี่ย คิดว่านี่เราเกือบพลาดหนังเรื่องนี้ไปแล้วหรือเปล่า ตอนที่เห็นตัวอย่าง คิดว่ามันเป็นแค่หนังธรรมดา ที่เน้นหนักไปทางฝั่งตลกมากกว่า จะเอาจริงเอาจัง เอาจริงมันก็

เป็นแบบนั้นแหละค่ะ ตลอดทั้งเรื่องก็ยังมีความตลกเป็นหลักอยู่ แต่ว่ามันไม่ใช่การเล่นตลกไปเรื่อยเปื่อยค่ะ มันเป็นมุกแบบที่คิดมา แล้วไม่ได้เน้นความหยาบคาย หรือว่าอาศัยพลังดาราเข้าช่วยแต่อย่างใด เน้นไปที่การออกแบบฉาก มันก็เลยได้ฉากที่ทั้งตลก เข้ากับสถานการณ์ แถมยังเป็นตัวบอกเล่าเรื่องราวอีกด้วย มันอาจจะไม่ได้ตลกถึงขั้นขำก๊าก แบบหยุดไม่อยู่ แต่มุกพวกนี้เนี่ย มันดูแล้วลื่นไหลค่ะ เพราะว่ามันจะไม่มี

คำถามเลยค่ะ ว่าฉากนี้มีไว้ทำไม ฉากนี้เกี่ยวกับเนื้อเรื่องตรงไหน มันไม่มีคำถามพวกนี้อยู่ในหัวเลย ตอนที่ดูอนงค์มีความสัมพันธ์ระหว่างคนกับผี เป็นแกนหลักของเรื่องชื่นชมทีมงานตรงนี้ค่ะ ว่าที่เอาจริงเอาจังกับมันมาก มันถูกตีความแล้ว ก็ขยายความไปในทุกแง่มุม อาจจะไม่ทั้งหมด แต่ว่าก็ไปได้ตามที่หนัง ต้องการค่ะ เพราะว่าในฉากไหนของหนังก็จะยึดกับคอนเซ็ปนี้ตลอด แต่ตลกแบบผียังไงดีตอนที่ดูตัวอย่างเนี่ย

รู้สึกขัดใจกับซีจีอยู่พอสมควร เหมือนกันมันออกมา ไม่ค่อยเน้นแต่พอมาดูจริง กลับไม่ได้รู้สึกขัดใจอะไรเลย ค่ะ ด้วยความที่ตีมันคุมเอาไว้ไม่ให้ออกไปจริงจังมาก ด้วยส่วนนึง อีกส่วนนึงก็เพราะว่าหนังจำเป็นจะต้องใช้ซีจีเยอะมาก แทบทุกฉากที่เป็นตัวละครสามผีอย่างอนงค์ ทองหยิบ แล้วก็ทองก้อน จะต้องเป็นแบบนั้นแล้วก็ขยันโชว์ของด้วย ก็เลยจะต้องใช้ซีจีเยอะ ก่อนจะไปพูดถึงความรักของสองตัวเอก แอดมินชื่นชอบการ

ตีความของผีในเรื่องนี้นะคะ เคยคิดแล้วก็ต้องคำถามกันมั้ยคะ ว่าผีก็เป็นคนมาก่อน ทำไมต้องทำตัวประหลาดหน้าบึ้งตึงตลอดเวลา ด้วยเราจะไม่สามารถพูดคุยกับผีได้เลย เหมือนที่คุยกับคนปกติได้เลยหรอ ผีในอนงค์เนี่ย ไม่ได้เป็นแบบที่ผีส่วนใหญ่เป็นแล้วกันค่ะ พวกเขาแทบไม่ได้ต่างอะไร กับคนปกติเลยในด้านความคิด แค่ไม่มีร่างกายเท่านั้น และพวกเขาก็ยังไม่ได้ทิ้งหลักความสามารถ ในการเป็นวิญญาณไปนะ

ยังอยู่ครบหมดค่ะ ทำได้หมดหายตัว ทะลุประตู การหลอก รวมถึงการเข้าสิงก็ด้วย บทจะน่ากลัวก็ทำออกมาได้ดูดีอยู่เหมือนกัน รวมไปถึงพวกความเชื่อ ที่สืบทอดกันมาจากการตายซ้ำๆ ที่เดิมให้ทุกคืนประเด็นนี้ก็ถูกใช้ในเรื่องนี้ได้ดีค่ะ ผีในอนงค์ยังไง ก็ยังเป็นผีนั่นแหละค่ะ แค่มีชีวิตชีวามากขึ้น ขอต่อเรื่องของความเป็นผีในหนังนิดหน่อยแล้วกันนะคะ ต้องยอมรับในความสร้างสรรค์ มันมีความฉากที่ ถ้าเป็นผีก็

คงทำแบบนั้นเหมือนกัน ใช้ความสามารถให้คุ้ม ที่ไม่ใช่แค่เอาแต่หลอก ให้คนกลัวเฉยๆ แอดมินชอบฉากที่ที่อนงค์แอบสืบมากเลยค่ะ ถ้ามีความสามารถแบบนี้ เรื่องข้างบ้านเนี่ยจะไม่ยากแก่การรู้อีกต่อไป หนังในยังมีไกด์ไลน์ที่ดีด้วย ทุกการกระทำก่อนเกิดขึ้นจริง มักจะมีชามาก่อนเสมอ มันเป็นทั้งการย้ำ ให้คนรวมไปถึงเพิ่มความหนักแน่นของซีนด้วย เพราะพูดถึงความจริงจังในหนังกันบ้างดีกว่าค่ะ อันที่จริงแล้วความรัก

ของคนกับผีมันก็ดราม่าตั้งแต่เริ่มอยู่แล้ว ความจริงแล้วมันก็คือแนวนึง ของความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นแค่ชั่วคราว ความสัมพันธ์ที่เป็นไปไม่ได้ ไม่ได้ต่างอะไรจากหนังดราม่า ที่พระเอก นางเอก ป่วยตั้งแต่เริ่มเรื่อง คือรู้อยู่แล้วว่ายังไงมันก็ต้องจบลงสักวันนึง เพราะฉะนั้นระหว่างทางของหนังเรื่องนี้ มันก็เลยสำคัญเอามากๆค่ะ และความสัมพันธ์ของโจและอนงค์ ก็เป็นการเดินทางที่สวยงาม ต่างคนต่างมีปัญหาของตัวเองอยู่

แล้วก่อนจะมาเจอกัน สร้างสถานการณ์ต่างๆ ทำให้เรื่องราวของทั้งคู่ ที่เหมือนจะเป็นเช่นนั้น มารวมกันได้อย่างเหมาะเจาะ มันไม่ได้รู้สึกว่าฝั่งใดฝั่งนึง โดนบังคับมากเกินไป พวกเขาต่างถูกดึงดูดด้วยกัน และกันค่ะจากตัวตนของอีกฝ่ายจริง มันมีความรักได้พบอยู่นิดนิด ปิ๊งกันอย่างรวดเร็ว มันอาจจะดูง่ายไปหน่อย แต่ว่าความรักมันก็เป็นแบบนั้นแหละค่ะ มันเกิดขึ้นง่าย ไม่ต้องมีอะไรมาบังคับอยู่แล้ว แต่ที่เค้าบอกกันค่ะ คนที่ใช่ทำอะไรก็ใช่ ยังไงก็อย่าลืมไปติดตามเรื่องนี้กันด้วยนะคะ